สินค้า รุ่นยาง โปรโมชั่น ความรู้ผลิตภัณฑ์ ข่าวสาร ค้นหาสาขา เกี่ยวกับเรา

วิธีสังเกต “ยางใกล้หมดอายุ” และอ่านรหัสสัปดาห์/ปีผลิต (DOT) ให้เป็น

ยางรถยนต์คือชิ้นส่วนเดียวของรถที่สัมผัสพื้นถนนตลอดเวลา เมื่อ “สภาพยาง” เสื่อมลง สมรรถนะการยึดเกาะ ระยะเบรก และความปลอดภัยจะลดลงทันที หลายคนถามบ่อยว่า ยางรถยนต์หมดอายุเมื่อไหร่ หรือ จะดูยังไงว่ายางควรเปลี่ยน บทความนี้คือคู่มือฉบับเข้าใจง่าย—เช็กได้เองในไม่กี่นาที พร้อมสอนอ่านรหัส DOT (สัปดาห์/ปีผลิต) แบบไม่งง

 

1) “หมดอายุ” ของยางหมายถึงอะไร? ต้องรอครบปีค่อยเปลี่ยนไหม

  • คำว่า “หมดอายุ” ในภาษาคนใช้รถ คือ สภาพยางเสื่อมเกินกว่าจะใช้งานได้อย่างปลอดภัย ไม่ได้หมายความว่าต้องถึงปีที่กำหนดแล้วเปลี่ยนอัตโนมัติ

  • อายุยางขึ้นกับ การใช้งานจริง: ระยะทาง ความเร็ว ความร้อนจากการขับทางไกล น้ำหนักบรรทุก การจอดตากแดด การดูแลลมยาง และสภาพถนน

  • โดยทั่วไป หากยางมีอายุหลายปีแล้ว (เช่น 4–6 ปีขึ้นไป) ให้ ตรวจละเอียดเป็นพิเศษ ถ้าพบร่องรอยเสื่อมหรือดอกตื้นถึงสันเตือน ให้ “วางแผนเปลี่ยนยางรถยนต์” ได้เลย ไม่ต้องรอให้ครบปีตามทฤษฎี

สรุป: อย่าดู “ปีผลิต” อย่างเดียว ให้ดู สภาพจริง ร่วมด้วยเสมอ

 

2) 7 สัญญาณสำคัญ—ถึงเวลา “เปลี่ยนยาง” แล้วหรือยัง? 🔍

  1. ดอกยางตื้นใกล้ TWI (Tread Wear Indicator)

    • ตามร่องดอกจะมีสันเตือนเล็ก ๆ ถ้าหน้ายางเตี้ยจนเกือบระดับสันเตือน หรือวัดความลึกได้ต่ำกว่า ~1.6 มม. ให้เตรียมเปลี่ยน

  2. รอยแตกลายงา/แห้งกรอบ

    • พบทั้งบนหน้ายางหรือแก้มยาง จากความร้อน/UV/อายุการใช้งาน

  3. แก้มยางบวม/ปูด

    • มักเกิดจากกระแทกแรง ๆ (ตกหลุม ขอบคัน) โครงสร้างด้านในเสียหาย เสี่ยงระเบิด ควรเปลี่ยนทันที

  4. รอยบาด–ฉีก–แทง

    • โดยเฉพาะที่ “แก้มยาง” ส่วนใหญ่มัก ห้ามปะ ควรเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัย

  5. สึกไม่สม่ำเสมอ

    • สึกด้านใน/ด้านนอกข้างเดียว (alignment มีปัญหา) หรือเป็นลอนฟันปลา (ถ่วงล้อ/ช่วงล่าง) ถึงเวลาตั้งศูนย์–ถ่วงล้อ และพิจารณาเปลี่ยน

  6. เสียงฮัมดังขึ้นตามความเร็ว / พวงมาลัยสั่น

    • บ่งชี้รูปทรงหน้ายางผิดปกติหรือถ่วงล้อเพี้ยน หากยางสึกมากแล้ว เปลี่ยนจะจบกว่า

  7. อายุยางหลายปี + สภาพรวมเริ่มแย่

    • แม้ดอกจะยังพอมี แต่ถ้ามีรอยแตกร้าวหรือเนื้อยางแข็ง จับถนนเปียกได้แย่ลง ควรเปลี่ยนเพื่อความมั่นใจ

 

3) วิธีอ่านรหัส DOT: สัปดาห์–ปีผลิต ไม่ยากอย่างที่คิด 🧾

บนแก้มยางจะมีตัวอักษร DOT XXXXXX 1223 (ตัวอย่าง) โดย “1223” คือ

  • 12 = สัปดาห์ที่ 12

  • 23 = ปี 2023
    แปลว่า “ผลิตในสัปดาห์ที่ 12 ของปี 2023”

บางยี่ห้ออาจมีสัญลักษณ์/ตัวอักษรต่อท้ายอื่น ๆ เพิ่มเติม แต่ตัวเลข 4 หลักท้ายคือสัปดาห์–ปีผลิตแน่นอน

ทิป: หากหาตัวเลขไม่เจอ ให้หมุนล้อดูอีกด้าน เพราะบางลอตัวเลข DOT อาจอยู่ด้านใน

 

4) อายุยาง–ปีผลิต: ต้องใหม่กริ๊บเท่านั้นไหม?

  • ยางเก็บสต็อกในสภาพแวดล้อมที่ควบคุม (ไม่ร้อน/ไม่ชื้น/ไม่โดนแดด) จะ ไม่มีปัญหา หากเพิ่งออกจากคลังไม่นาน

  • สิ่งสำคัญกว่าคือ สถานะหลังเริ่มใช้งาน: ลมยางถูกสเปกหรือไม่ ขับทางไกลร้อนจัดแค่ไหน จอดตากแดดไหม

  • หากคุณให้ความสำคัญเรื่อง ราคายางรถยนต์ และคุ้มค่าในระยะยาว ให้เลือกยางจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และดู “สภาพ–การรับประกัน–บริการหลังการขาย” ร่วมด้วย

 

5) ทำยังไงให้ “ยางอยู่กับเราได้นาน” แบบคุ้ม ๆ 💡

  • เช็กลมยางทุก 2 สัปดาห์ และก่อนเดินทางไกล (อ้างอิงสเปกที่สติ๊กเกอร์ประตู ไม่ใช่ตัวเลขสูงสุดบนแก้มยาง)

  • สลับยางทุก 8,000–10,000 กม. ช่วยให้สึกสม่ำเสมอ

  • ตั้งศูนย์–ถ่วงล้อ เมื่อเริ่มมีอาการสึกเอียง/สั่น

  • ระวังแรงกระแทก: ชะลอช่วงรอยต่อสะพาน/หลุมลึก ลดโอกาสแก้มบวม

  • จอดในที่ร่ม ช่วยชะลอการแตกลายงา

  • ตรวจความเสียหายทันที เมื่อชน/เบียดหนัก ๆ —อย่าฝืนวิ่งยาว

 

6) FAQ สั้น ๆ ที่เจอบ่อย ❓

  • Q: ดอกยังเยอะ แต่ยางแตกลายงาควรเปลี่ยนไหม?
    A: ควร เพราะเนื้อยางแข็งและเสื่อม ความสามารถเกาะถนนเปียกลดลงมาก

  • Q: ยางบวมยังพอขับต่อได้ไหม ถ้าไม่เร็ว?
    A: ไม่แนะนำ เสี่ยงระเบิด เปลี่ยนใหม่ปลอดภัยกว่า

  • Q: ปะยางที่แก้มได้ไหม?
    A: โดยหลักการ ห้ามปะแก้มยาง ควรเปลี่ยนทันที

  • Q: ใช้ไนโตรเจนแทนลม ช่วยยืดอายุยางไหม?
    A: ช่วยให้ความดันนิ่งและความชื้นต่ำลงเล็กน้อย แต่ “เช็กลมสม่ำเสมอ” สำคัญกว่า

 

7) เช็กลิสต์ 60 วินาที—รู้เลยว่า “ถึงเวลาหรือยัง” 📝

  • ดอกยางไม่ตื้นกว่าระดับ TWI

  • ไม่มีแตกลายงา/แก้มบวม/รอยฉีก

  • ไม่มีสึกเอียงข้างเดียว/เป็นลอน

  • ไม่มีเสียงฮัม/สั่นผิดปกติที่ความเร็วคงที่

  • DOT อายุหลายปี? ถ้า “สภาพรวมแย่” ให้เตรียมเปลี่ยน

  • ขับฝนบ่อย–ทางไกล–บรรทุกหนัก → ตรวจถี่ขึ้นเพื่อความปลอดภัย

 

สรุป

การตัดสินใจเปลี่ยนยาง ไม่ใช่ดูปีผลิตอย่างเดียว แต่ต้องดู “สภาพจริง” เป็นหลัก—ดอกยาง ความลึก รอยบวมแตกร้าว การสึก และอาการระหว่างขับ หากพบสัญญาณเสื่อม ให้วางแผนเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรัก แล้วอย่าลืมดูแลง่าย ๆ อย่างลมยาง สลับยาง และตั้งศูนย์–ถ่วงล้อเป็นประจำ ไม่ว่าคุณจะกำลังเปรียบเทียบ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี หรือพิจารณา ยาง nankang รุ่นที่เหมาะกับการใช้งานจริง—การดูแลตามคู่มือพื้นฐานจะทำให้ยางคุ้มค่าและปลอดภัยเสมอ

 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ NANKANG ได้ที่

🔎 ค้นหายางที่เหมาะกับรถคุณ: https://nankangtire.in.th/products/1/list
🏪 รายชื่อศูนย์บริการทั่วประเทศ: https://nankangtire.in.th/branches/list
🎉 โปรโมชั่นล่าสุด: https://nankangtire.in.th/promotions/list
🗞️ ข่าวสารและกิจกรรม: https://nankangtire.in.th/news/list.

สินค้าและบริการ
ยางรถยนต์
โปรโมชั่น
บทความ
วิดีโอความรู้
ข่าวสาร
ค้นหาสาขา
เกี่ยวกับเรา
สนใจเปิดสาขา
ลงทะเบียนรับประกันยาง
ตรวจสอบการรับประกัน
นโยบายการรับประกัน
ติดต่อเรา

Copyright © 2024 NANKANG TIRES สงวนสิทธิ์ทุกประการ

|

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

|

นโยบายความเป็นส่วนตัว

|

นโยบายการใช้คุกกี้

สินค้าและบริการ
ยางรถยนต์
โปรโมชั่น
บทความ
วิดีโอความรู้
ข่าวสาร
ค้นหาสาขา
เกี่ยวกับเรา
สนใจเปิดสาขา
ลงทะเบียนรับประกันยาง
ตรวจสอบการรับประกัน
นโยบายการรับประกัน
ติดต่อเรา

Copyright © 2024 NANKANG TIRES สงวนสิทธิ์ทุกประการ

|

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

|

นโยบายความเป็นส่วนตัว

|

นโยบายการใช้คุกกี้