เจอน้ำขัง/น้ำท่วมฉับพลันระหว่างทาง หลายครั้งจำเป็นต้อง “ลุยน้ำ” ระดับตาตุ่ม–ครึ่งล้อเพื่อออกจากพื้นที่ให้ได้ ปลอดภัยไว้ก่อนคือหลัก แต่หลังผ่านจุดนั้นแล้ว สิ่งที่ควรทำทันทีคือ “ดูแลยาง–ล้อ–ฮับล้อ” ให้ถูกขั้นตอน เพื่อลดความเสียหายสะสม เสียงฮัม และยืดอายุการใช้งานของ ยางรถยนต์ บทความนี้คือเช็กลิสต์แบบทำตามได้จริงใน 10–15 นาที
1) หลบพ้นน้ำแล้ว ทำ 5 อย่างนี้ก่อนขับต่อ ✅
-
หยุดในที่ปลอดภัย เปิดไฟฉุกเฉิน
-
วนตรวจรอบคัน 360°
-
มองหา เศษแก้ว/ตะปู/ลวด ติดในร่องดอก
-
เช็ก แก้มยาง ว่ามีรอยบาดจากของมีคมหรือไม่
-
-
เช็กล้อ–ขอบล้อ
-
มองหาบุบ/คดจากหลุมที่มองไม่เห็นใต้น้ำ
-
-
ฟังเสียงตอนคลานช้า ๆ
-
ถ้ามีเสียง “กึกๆ/เสียดโลหะ” ให้หยุด—อาจมีเศษหินติดเบรก/กันโคลน
-
-
ดูไฟ TPMS (ถ้ามี)
-
ถ้าโชว์ ให้วัด PSI จริงแล้วปรับตามสเปกรถ (อย่ากดรีเซ็ตทิ้ง)
-
2) เมื่อถึงจุดจอด: ล้าง–ไล่น้ำ–ไล่ทรายอย่างถูกวิธี 🧼
-
ฉีดน้ำแรงปานกลาง ใต้ซุ้มล้อ–ดุมล้อ–คาลิเปอร์ เพื่อไล่โคลน/ทราย
-
ใช้แปรงขนอ่อน เขี่ยทรายออกจากร่องดอกยาง ลดเสียงฮัมและการสึกผิดรูป
-
ไม่ฉีดน้ำแรงอัด “จุ๊บลม/วาล์ว” ตรง ๆ กันน้ำดันเข้าลิ้นวาล์ว
-
เช็ด/เป่าให้แห้ง เฉพาะบริเวณจุ๊บ–รอยต่อขอบล้อ ลดโอกาสสนิม/คราบ
ถ้ามีเวลาน้อย: แค่ “ฉีดล้างร่องดอก + ซุ้มล้อ” ให้สะอาด ก็ช่วยได้มาก
3) ตรวจลม–ตรวจศูนย์ “วันเดียวจบ” 🧪
-
วัดแรงดันตอนยางเย็น ให้ตรงสเปก (หลังล้าง/จอดคลายความร้อนแล้ว)
-
ถ้า “ชนหลุมแรง” ใต้น้ำจนพวงมาลัยเอียง/รถดึง → ตั้งศูนย์ล้อ
-
มีอาการสั่นที่ 80–100 กม./ชม. → ถ่วงล้อ + ตรวจล้อคด
4) อาการที่บอกว่า “อย่าฝืนขับต่อ” ⚠️
-
ยางรั่วช้า/PSI ร่วง ต่อเนื่องหลังล้าง → หาเศษแหลม/ปะชั่วคราวแล้วเข้าศูนย์
-
แก้มยางเป็นคลื่น/บวม (Bubble) → หยุดใช้ความเร็วทันทีและ เปลี่ยนยาง
-
ล้อคดแรง (เห็นด้วยตา/สั่นเด่นชัด) → งดวิ่งเร็ว เข้าร้านให้ช่างเช็กซ่อม/ถ่วง
5) เทคนิค “ลุยน้ำให้ปลอดภัยกว่า” คราวหน้า 🌊
-
ช้า–คงที่–ไม่แซง สร้างคลื่นหน้าเล็ก ๆ คงที่ ลดน้ำตีกลับเข้าซุ้มล้อ
-
เลี่ยงเปลี่ยนเลนบ่อย: ใต้น้ำมีร่อง/ฝาท่อ/หลุมซ่อน
-
เลี้ยวให้น้อยบนผิวน้ำ ลดแรงเฉือนที่ไหล่ยาง
-
หลังพ้นน้ำ แตะเบรกเบา ๆ สักช่วงสั้น ๆ ไล่น้ำออกจากผ้าเบรก ก่อนขึ้นความเร็ว
6) FAQ (สั้นและได้ใจความ) ❓
-
Q: หลังลุยน้ำควรลด/เพิ่มลมไหม?
A: ไม่จำเป็น เพียงวัดและปรับ ให้ตรงสเปกตอนยางเย็น -
Q: น้ำเข้าวาล์วลมได้ไหม?
A: ถ้าฝาจุ๊บแน่น โอกาสต่ำมาก แต่หลีกเลี่ยงฉีดน้ำแรงจ่อวาล์วโดยตรง -
Q: ล้างทันทีหรือรอให้แห้งก่อน?
A: ล้างทันทีที่ทำได้เพื่อไล่ทราย/โคลน ลดการขัดสีหน้ายางและสนิมที่ขอบล้อ -
Q: ขับแล้วมีเสียงฮัมมากกว่าปกติทำไง?
A: ตรวจกรวดในร่องดอก–ถ่วงล้อ หากยังดังอาจเกิด “ลอนสึก” จากหลุม/แรงกระแทก ให้ช่างประเมิน
7) เช็กลิสต์ 10 นาทีหลังลุยน้ำ 📝
-
เก็บเศษแหลม–ทรายออกจากร่องดอก
-
ตรวจแก้มยาง/ขอบล้อ บาด–บุบ–บวม
-
วัด PSI ตอนยางเย็น ปรับตามสเปก
-
ทดลองวิ่ง 80–100 กม./ชม. ฟังเสียง/สั่น
-
ถ้ามีอาการ → ถ่วงล้อ/ตั้งศูนย์/ให้ช่างเช็กช่วงล่าง
สรุป: หลังลุยน้ำ สิ่งสำคัญคือ “ไล่โคลน–ทราย + ตรวจความเสียหาย + รีเซ็ตแรงดันให้ตรงสเปก” ทำครบวงจรนี้ ยางจะเงียบ นิ่ง ปลอดภัย และยืดอายุได้จริง—คุ้มค่ากับเวลา 10–15 นาทีมากกว่าต้องรีบ เปลี่ยนยางรถยนต์ เพราะสึก/บวมจากทรายและแรงกระแทกที่มองไม่เห็น
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ NANKANG ได้ที่
🔎 ค้นหายางที่เหมาะกับรถคุณ: https://nankangtire.in.th/products/1/list
🏪 รายชื่อศูนย์บริการทั่วประเทศ: https://nankangtire.in.th/branches/list
🎉 โปรโมชั่นล่าสุด: https://nankangtire.in.th/promotions/list
🗞️ ข่าวสารและกิจกรรม: https://nankangtire.in.th/news/list