ขับอยู่ดี ๆ TPMS โชว์หรือรู้สึกท้ายเริ่มลอย ๆ วัดแล้ว PSI ลดทีละนิด = รั่วช้า (slow leak) ถ้าไกลศูนย์และต้องไปต่อ คู่มือนี้สอนใช้ ชุดปะยางฉุกเฉิน (ใส้ไส้/กาวอัด) และ ปั๊มลม 12V แบบทีละขั้น—ทำเองได้ รวดเร็ว และปลอดภัย โดยย้ำข้อจำกัดสำคัญว่า ปะได้เฉพาะ “หน้ายาง” เท่านั้น แก้มยาง/ไหล่ยางห้ามปะ
1) เช็กให้ชัวร์ก่อนลงมือ (2 นาที)
-
จอดที่ปลอดภัย เปิดไฟฉุกเฉิน ดึงเบรกมือ
-
เดินตรวจ หน้ายาง หา ตะปู/สกรู/เศษแหลม (อย่าดึงออกตอนนี้)
-
ห้ามซ่อม ถ้าแผลอยู่ที่ แก้มยาง/ไหล่ยาง, ปากแผลฉีกกว้าง, ยางบวม → เปลี่ยนล้ออะไหล่หรือเรียกช่วยเหลือ
2) ของที่ควรมีติดรถ
-
ชุดปะยางแบบ ใส้ไส้ (string plug): เหล็กคีด (reamer), เหล็กสอด, แผ่นใส้ไส้, กาว
-
ปั๊มลม 12V (ตั้งค่า PSI ได้ยิ่งดี) + เกจวัดลม
-
คีมปากจิ้งจก/คีมปากแหลม, มีดคัตเตอร์/มีดพับ
-
ถุงมือ, ไฟฉาย, เสื้อสะท้อนแสง
ถ้ามี “ชุดซีลแลนต์แบบน้ำยาอัด” ใช้ได้ในกรณีเร่งด่วน แต่ควรทราบว่า อาจเลอะภายในล้อ/กระทบการถ่วงล้อ/มีผลกับเซ็นเซอร์ TPMS บางรุ่น—ใช้เท่าที่จำเป็น
3) ปะใส้ไส้ (string plug) แบบหน้างาน – ทำตามได้ทีละขั้น
-
เติมลมพอให้ยางไม่แฟบ (ช่วยให้ทำงานง่าย)
-
ใช้คีม ดึงตะปู/สกรูออก (จำทิศที่ปัก)
-
ใช้เหล็กคีด รีมรู เข้า–ออกตามแนวเดิม 5–10 ครั้ง เพื่อทำความสะอาดและกำหนดขนาดรู (หมุนเบา ๆ ไม่ต้องโหด)
-
ป้ายกาวที่ ใส้ไส้ แล้วสอดเข้า “เหล็กสอด” ให้พอดีครึ่งหนึ่ง
-
แทงใส้ไส้เข้าไป ตามแนวรูให้เหลือปลาย โผล่เหนือหน้ายาง ~0.5–1 ซม.
-
ดึงเหล็กสอดออกเร็ว–ตรง ใส้ไส้จะล็อกอยู่ในหน้ายาง
-
ใช้มีด ตัดส่วนที่เกิน ให้เสมอหน้ายาง (เหลือเล็กน้อยได้)
-
เติมลมตามสเปกรถ (ตอนนี้ยังร้อนอยู่ วัดเพื่อเทียบชั่วคราว—ค่อยเช็กซ้ำอีกครั้งตอนยางเย็น)
-
พ่น/ทาน้ำสบู่ที่จุดซ่อม ดูฟอง ถ้ามีฟองต่อเนื่อง = ยังรั่ว ให้แทงซ้ำหรือไปศูนย์ทันที
เป้าหมายคือ “หยุดการรั่วเพื่อไปให้ถึงศูนย์อย่างปลอดภัย” ไม่ใช่งานซ่อมถาวร
4) ข้อจำกัดความเร็ว–ระยะทางหลังปะฉุกเฉิน
-
ขับไม่เกิน 80 กม./ชม. และเว้นระยะเบรกมากขึ้น
-
วิ่งให้ถึง ศูนย์บริการ/ร้านยางใกล้ที่สุด เพื่อตรวจ–ซ่อม จากด้านในยาง (mushroom/patch) อย่างถูกวิธี
-
ตรวจแรงดัน ทุก 15–30 นาทีแรก หาก PSI ลดอีก = ยังรั่ว → ลดความเร็ว/จอดตรวจ
5) ใช้น้ำยาอัด (sealant) เมื่อไหร่ดี?
-
ใช้เมื่อ เข้าถึงจุดปะยาก/ฝนตกหนัก/กลางคืน และต้อง “ไปต่ออีกไม่ไกล”
-
หลังใช้แล้วควรแจ้งร้านยางล่วงหน้า—บางชนิดกระทบการถ่วงล้อ/เซ็นเซอร์ TPMS ให้ช่างล้างทำความสะอาดภายในล้อ–ยาง
6) เปลี่ยนล้ออะไหล่ vs ปะฉุกเฉิน—เลือกอะไรดี?
-
ล้ออะไหล่เต็มใบ (Full-size): ถอด–ใส่แล้วไปต่อได้ใกล้เคียงปกติ (เช็ก PSI ยางอะไหล่ด้วย)
-
Space-saver (แคบ): จำกัด ~80 กม./ชม. และระยะทางสั้น ๆ เพื่อไปศูนย์
-
ปะใส้ไส้: เร็ว ไม่ต้องยกรถ แต่เป็น “ชั่วคราว” และใช้ได้เฉพาะ หน้ายาง
ถ้ามีแรง/พื้นที่ปลอดภัยพอ การ เปลี่ยนอะไหล่ มักคุมความเสี่ยงได้ดีที่สุด
7) คำถามที่พบบ่อย (ตอบไว)
-
Q: แผลใกล้ไหล่ยาง ปะได้ไหม?
A: ไม่แนะนำ ยิ่งชิดไหล่มากเท่าไรยิ่งเสี่ยง ให้ให้ช่างประเมิน—มักต้อง เปลี่ยนยาง -
Q: ปะใส้ไส้แล้ววิ่งยาวได้เลยไหม?
A: ไม่ควร ให้ไป ซ่อมจากด้านใน เพื่อความทน–ปลอดภัย -
Q: ทำไมปะแล้วยังรั่ว?
A: แผลใหญ่/ทแยง/มีเศษคมคา/รีมรูไม่สะอาด หรือเป็นรูที่ แก้มยาง ซึ่งห้ามปะ -
Q: ใช้ไนโตรเจนแทนลมหลังปะได้ไหม?
A: ได้ แต่หัวใจคือ “ตรวจ PSI ถี่ขึ้น” ช่วง 1–2 วันแรก
8) เช็กลิสต์ 60 วิ ก่อนออกรถหลังซ่อม
-
ไม่มีฟองที่จุดปะหลังพ่นน้ำสบู่
-
เติมลม ตามสเปกรถ (จะเช็กซ้ำอีกครั้งตอนยางเย็น)
-
เปิดเสียงแจ้งเตือน TPMS และสังเกตค่า
-
จำกัดความเร็ว ≤ 80 กม./ชม. ไปศูนย์ใกล้สุด
9) ป้องกันล่วงหน้าให้ชีวิตง่ายขึ้น
-
เช็กลม ทุก 2 สัปดาห์ และก่อนเดินทางไกล
-
พก เกจ + ปั๊ม 12V + ชุดปะ ไว้เสมอ
-
เลี่ยงไลน์ที่มีเศษตะปู/ช่างก่อสร้าง/ลานกรวด
-
สลับยางตามระยะ 8,000–10,000 กม. ช่วยให้สึกเสมอและตรวจพบสิ่งแปลกปลอมง่ายขึ้น
สรุป
ยางรั่วช้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าคุณมีอุปกรณ์พร้อมและรู้ขั้นตอน ปะเฉพาะหน้ายาง → เติมลมตามสเปก → จำกัดความเร็ว → มุ่งหน้าเข้าศูนย์เพื่อซ่อมถาวร ทำแบบนี้ทั้งปลอดภัย ทั้งยืดอายุ ยางรถยนต์ ได้จริง ใครกำลังชั่งใจ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ก็เริ่มจากการดูแลถูกวิธีก่อน—คุณจะใช้ยางได้ “คุ้มและมั่นใจ” กับทุกแบรนด์
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ NANKANG ได้ที่
🔎 ค้นหายางที่เหมาะกับรถคุณ: https://nankangtire.in.th/products/1/list
🏪 รายชื่อศูนย์บริการทั่วประเทศ: https://nankangtire.in.th/branches/list
🎉 โปรโมชั่นล่าสุด: https://nankangtire.in.th/promotions/list
🗞️ ข่าวสารและกิจกรรม: https://nankangtire.in.th/news/list